ในกรณีที่ผู้ใช้บริการไม่สะดวกรอรับผลการตรวจและข้อมูลทางการแพทย์ ทางเราจะส่งข้อมูลดังกล่าวไปยังอีเมลของบัญชีที่ได้ลงทะเบียนไว้ และบันทึกลงในประวัติการรักษาในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคล 13. ท่านจะต้องไม่อัปโหลดข้อมูล หรือทำกิจกรรมที่เป็นอันตราย หรือเป็นการแทรกแซง ขัดขวางการทำงานของระบบภายในเว็บไซต์ หากทางเรามีการตรวจสอบว่าท่านได้ละเมิดข้อตกลงดังกล่าวท่านจะต้องชดใช้ค่าเสียหายแทนทางเพชรเวช 14. สมาชิกเว็บไซต์เพชรเวชจะไม่นำข้อมูลการใช้บริการไปใช้ในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายเพื่อละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น หรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของสังคม เพชรเวชจะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว หากทางเพชรเวชพบว่าสมาชิกของเว็บไซต์ละเมิดข้อตกลงดังกล่าว ทางเราจะขอสงวนสิทธิ์ในการระงับการให้บริการกับสมาชิกท่านนั้นโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า 15. หากเพชรเวชมีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงในการให้บริการจะแจ้งให้ท่านทราบ โดยการขึ้นหน้าจอ "ข้อตกลง" เพื่อให้ท่านรับทราบเงื่อนไขการใช้บริการและกด "ยอมรับ" เพื่อเข้าใช้งานเว็บไซต์ต่อไป ทางเพชรเวชจะถือว่าท่านทราบข้อตกลงและยอมรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว แล้วจะไม่มีการฝ่าฝืนเงื่อนไขและข้อตกลงโดยอ้างว่าไม่ทราบไม่ได้ 16.
สัญญาณชีพ หรือ ชีวสัญญาณ (Vital signs) เป็นอาการที่แสดงสัญญาณถึงการมีชีวิตของมนุษย์ เป็นกระบวนการที่ดำเนินไปเพื่อให้ร่างกายมีชีวิตอยู่ เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความปกติของชีวิต สัญญาณชีพหลัก มี 4 อย่าง ได้แก่ 1. อุณหภูมิร่างกาย (Body Temperature ย่อว่า T) 2. ความดันโลหิต (Blood pressure ย่อว่า BP) 3. อัตราการหายใจ (Respiratory rate ย่อว่า RR หรือ R) 4.
56 องศาฯ
ดันลืมไปแล้วว่าค่าความดันเมื่อวานได้เท่าไหร่ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะ BSX593 สามารถบันทุกค่าความดันที่วัดไว้ได้ถึง 2 คน คนละ 99 ค่า!
เอาเป็นว่า 110/68 เป็นค่าความดันโลหิตของคุณที่อ่านได้จากอุปกรณ์ เป็นความคิดที่ดีที่จะบันทึกค่าเหล่านี้ไว้ที่ไหนสักแห่งเพื่อให้คุณสามารถติดตามความผันผวนของความดันโลหิตของคุณได้ เนื่องจากความดันโลหิตของคุณสามารถผันผวนได้ตลอดทั้งวัน คุณอาจจะต้องการวัดค่าตัวเลขที่อ่านได้จากอุปกรณ์หลายครั้งในช่วงเวลาที่แตกต่างกันตลอดทั้งวัน (ตลอดช่วงเวลาสองถึงสามสัปดาห์เพื่อความแม่นยำที่สุด) และค่าเฉลี่ยของจำนวนตัวเลขที่อ่านได้จากอุปกรณ์เหล่านี้ 3 ลบตัวเลขช่วงหัวใจบีบตัวออกจากตัวเลขช่วงหัวใจคลายตัวเพื่อให้ได้ความดันชีพจรของคุณ. ในตัวอย่างนี้คุณต้องลบ 68 ออกจาก 110 ดังนั้นความดันชีพจรของคุณก็คือ 42 [4] โฆษณา ตรวจสอบว่าความดันชีพจรของคุณอยู่ในช่วงที่ปลอดภัยหรือไม่. แม้ว่าคนในวัยและเพศที่แตกต่างกันจะมีความดันชีพจรแตกต่างกันเล็กน้อยก็ตาม แต่วงการแพทย์ได้ตั้งอัตราส่วนพื้นฐานไว้ 40 มิลลิเมตรปรอท - ความดันชีพจรที่ 40 ถือว่าปกติ แต่ 40 ถึง 60 นั้นเป็นช่วงที่ค่อนข้างสุขภาพดี [5] โทรตามแพทย์ถ้าหากความดันชีพจรของคุณมีค่าเกิน 60 มิลลิเมตรปรอท.
แต่ละครั้งวัดติด ๆ กันทันที หรือก่อนวัดความดันอาจจะเพิ่งทานอาหารมา ดังนั้น ถ้าอยากรู้ว่าค่าความดันไม่เท่ากันแบบไหนที่ผิดปกติ ก็ควรตัดปัจจัยที่ทำให้ค่าความดันคลาดเคลื่อนออกก่อนนะคะ หากทำแล้วยังไม่เท่ากันอยู่ ให้ปฏิบัติตัว ดังนี้ค่ะ 1. วัดความดันในแต่ละครั้งไม่เท่ากัน ในกรณีที่วัดแขนข้างเดียวกันและในท่าเดียวกันอย่างถูกวิธี แต่ได้ค่าความดันในแต่ละครั้งไม่เท่ากัน ให้วัดใหม่อย่างน้อย 2 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 1 นาที ค่าความดันที่ได้ จะต้องไม่ห่างกันเกิน 5 มิลลิเมตรปรอท หากเกินให้วัดซ้ำ 1 – 2 ครั้ง ส่วนใหญ่ในการวัดครั้งแรก มักมีค่าความดันสูงกว่าครั้งถัด ๆ ไป ให้นำค่าที่ได้ในแต่ละครั้งมาหาค่าเฉลี่ยค่ะ ถ้าวัดหลายครั้งหรือหาค่าเฉลี่ยแล้วยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่สูง ควรมาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุนะคะ 2.
เครื่องวัดความดันแบบสอดแขน เครื่องวัดความดันแบบสอดแขน จะมีลักษณะที่ใช้งานง่ายโดยไม่ต้องใช้ผ้าพันแขน หรือ Cuff ผู้ป่วยเพียงแค่สอดแขนเข้าไปในอุโมงค์วัดความดัน รวมถึงยังเป็นเครื่องที่ทำงานแบบอัตโนมัติ และสามารถพิมพ์ค่าที่วัดได้อีกด้วย ข้อดี ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก ประหยัดเวลาในการวัด สามารถใช้งานต่อเนื่องนานๆ ได้ ข้อเสีย ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ พกพาได้ลำบาก เครื่องมีราคาสูง คลิกอ่านบทความเพิ่มเติม 📄 📌 7 เครื่องวัดความดันแบบสอดแขน ยี่ห้อไหนดีที่สุด ที่วัดความดันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปีล่าสุด 📌 แนะนำ วิธีใช้เครื่องวัดความดันแบบสอดแขน แบบที่ถูกต้อง เพื่อให้วัดค่าความดันได้อย่างแม่นยำมากที่สุด 2. เครื่องวัดความดันแบบปรอท เครื่องวัดความดันแบบปรอท จะเป็นเครื่องวัดความดันที่ใช้ระบบ Manual และใช้หลักการแรงโน้มถ่วงของโลก โดยในการวัดความดันจะต้องอาศัยการอ่านค่าบนแท่งปรอท พร้อมกับฟังเสียงตุ้บขณะปล่อยลมออก รวมถึงยังต้องมีการจับชีพจรก่อนวัดอีกด้วย สามารถวัดค่าได้อย่างแม่นยำ เครื่องมีความทนทาน หากใช้ไม่ระวัง อาจได้รับอันตรายจากสารปรอทได้ มีวิธีการใช้ค่อยข้างยุ่งยาก หลายขั้นตอน ไม่เหมาะกับผู้ที่สายตาและหูไม่ดี คลิกอ่านเพิ่มเติม: วิธีใช้เครื่องวัดความดันแบบปรอท อย่างถูกต้อง มีขั้นตอนอย่างไร ให้วัดความดันได้แบบแม่นยำมากที่สุด 3.
เพชรเวชขอสงวนสิทธิ์ในการส่งผลตรวจสุขภาพผ่านช่องทางอีเมลของผู้ทำการสั่งซื้อในหมวด "ซื้อให้ผู้อื่น" เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล 8. เพชรเวชจะทำการยืนยันอีเมลจากผู้เข้ารับการตรวจโดยตรงในวันที่เข้าใช้บริการ โดยจะส่งผลการตรวจสุขภาพไปทางอีเมลของผู้ใช้บริการ 9. ท่านสามารถชำระค่าใช้บริการทางการแพทย์ผ่านเว็บไซต์เพชรเวชนี้ โดยท่านจะต้องกรอกข้อมูลทางการเงินที่ถูกต้องครบถ้วนตามที่กำหนด โดยเพชรเวชจะไม่รับผิดชอบใด ๆ หากทางเราได้ดำเนินการถูกต้องตามคำสั่งการทำรายการของท่าน กรณีท่านมีความประสงค์ต้องการยกเลิกแพ็กเกจ ท่านจะต้องเสียค่าธรรมเนียม 2. 1% จากยอดชำระบริการทางการแพทย์ของเว็บไซต์เพชรเวช ยกเว้นท่านจะชำระผ่าน Credit card ต้องแจ้งยกเลิกก่อนเวลา 21:00 น. จึงจะสามารถคืนเงินเต็มราคาได้ โดยมีระยะเวลาในการดำเนินการประมาณ 3-7 วัน 10. หากมีข้อผิดพลาดหรือท่านมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับข้อมูลผู้ใช้ หรือผู้รับบริการทางการแพทย์ ท่านจะแจ้งรายละเอียดดังกล่าวมายังเพชรเวชเพื่อยืนยันตรวจสอบแก้ไขข้อผิดพลาดดังกล่าว ข้อกำหนดการใช้บริการและนโยบายความปลอดภัย 11. เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของท่าน เพชรเวชจะเก็บรักษาชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยไม่เปิดเผยข้อมูลแก่ผู้อื่น หากมีบุคคลอื่นล่วงรู้รหัสผ่านของท่านจากความประมาทของผู้ใช้เอง ควรแจ้งให้ทางเพชรเวชทราบโดยด่วน หากบุคคลอื่นใช้รหัสผ่านของท่านกระทำการใด ๆ ที่เป็นการละเมิดข้อกฎหมาย ท่านจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการกระทำดังกล่าวด้วยตนเอง 12.
3) ความต้านทานของหลอดเลือด ( Peripheral Vascular Resistance) ความต้านทานของหลอดเลือด สามารถทำให้ความดันเลือดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ Systolic Pressure ซึ่งมีปัจจัยบางอย่างที่ทำให้มีความต้านทานในหลอดเลือดแดง - ขนาดของหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดฝอย - ความยืดหยุ่นของหลอดเลือด( Elasticity of The Blood Vessels) - ความหนืดของเหลือด( Viscosity of The Blood) 2) ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงความดันเลือด 2. 1) อายุ ความดันเลือดจะเปลี่ยนแปลงตามช่วงอายุ เด็กเมื่อแรกเกิดจะมีค่า Systolic Pressure ประมาณ30 – 40 มิลลิเมตรปรอท และเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ Systolic Pressure เพิ่มเป็น 125-130 มิลลิเมตรปรอท เมื่อเข้าสู่วัยชรา ความดันเลือดจะสูงขึ้น 140 – 150 มิลลิเมตรปรอท ทั้งนี้อาจเนื่องจากความ ยืดหยุ่นของหลอดเลือดลดลง 2. 2) การออกกำลังกาย ขณะที่ออกกำลังกาย ความดันเลือดจะเพิ่มขึ้นกว่าในขณะพัก Systolic Pressure อาจจะสูงขึ้นกว่าปกติถึง 60 – 70 มิลลิเมตรปรอท (mmHg) ทั้งนี้เนื่องจากการออกกำลังกายทำให้เพิ่มจำนวนเลือดที่สูบฉีดออกจากหัวใจ และหัวใจเต้นเร็วขึ้น ส่วน Diastolic Pressure จะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย จึงทำให้ความดันชีพจรกว้างกว่าปกติ 2.
saura9.com, 2024