FORTUNA ฟอร์ทูน่า ชื่อดีๆนี้หมายถึง "Fortunate" หรือ โชคดี โชคชะตา คนเราจะรักกันได้ก็ต้องอาศัยพรหมลิขิตที่กำหนดให้มาเจอกัน การที่จะมาพบเจอคนดีๆนั้นไม่ใช่เรื่อง่าย ดังนั้นชื่อนี้อาจจะเหมาะกับสัตว์เลี้ยงประเภท Exotic Pets สัตว์แปลกที่อาจจะหายากสักหน่อย แต่เป็นสัตว์ที่น่ารักและนิยมเลี้ยงกันอาทิ Sugar Glider หรือจะเป็น Hedgehog เม่นแคระ ก็ดูเป็นชื่อใช้ได้เหมือนกัน 8. PULCHELLUS พัลเคลลัส ชื่อดูอ่านยากชื่อนี้มีความหมายว่า "Beautiful" หรือ สวย น่ารัก หากเรียกคนรักแบบนี้ทุกคนต้องมีอึ้งเพราะไม่รู้ความหมาย แต่ถ้ารู้แล้วปลื้มแน่นอน แต่เนื่องจากคำนี้เป็นคำเรียกยาก จึงเหมาะกับสัตว์แปลกๆ ที่หลายคนอาจจะไม่เห็นความงาม แต่มีเสน่ห์ในตัว เช่นงูสวยงาม Corn Snake หรือ Bearded Dragon มังกรเครา ที่ทุกวันนี้มีการพัฒนาพันธุ์ให้เลือกหลายสีหลายรูปลักษณ์ Writer: PUMPUI
ไพบูลย์ นัยเนตร ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ตั้งชื่อเมื่อปี ค. ศ. 1995 กุ้งดีดขัน Alpheus sudara sadara มาจากชื่อสกุลของ ดร. สุรพล สุดารา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงสุดที่รักแบบใหม่ เก๋ไก๋ด้วยภาษาลาติน สมัยนี้จะตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงทั้งทีจะให้มาชื่อ ไอ้ดำ ไอ้แดง ลัคกี้ ปีโป้ แบบแต่ก่อนก็คงจะซ้ำซากจำเจ เราจึงขอเสนอทางเลือกใหม่ตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงเป็นภาษาละติน ซึ่งแม้ว่าภาษานี้ จะถูกเรียกว่าภาษาสูญแล้ว (extinct language) มีคนใช้พูดน้อยมาก แต่ว่าภาษานี้ก็ยังคงความงดงามของภาษาและมีคำที่มีความหมายดีๆอีกเพียบ ซึ่งชื่อที่แนะนำเหล่านี้ล้วนเป็นคำหวานๆที่สื่อถึงคนรักได้ด้วยอีก ใครที่อยากตั้งชื่อให้สัตว์เลี้ยงแบบใหม่หรือจะใช้เป็นชื่อเล่นเรียกคนรักก็เลือกใช้ได้ตามสบาย 1. CARA คาร่า ชื่อแนวหวานๆ คำนี้มีความหมายว่า "Beloved" หรือผู้เป็นที่รัก เป็นชื่อสั้นๆ เรียกง่ายๆ แต่มีความหมายลึกซึ้ง ชื่อนี้เหมาะมากที่จะตั้งเป็นชื่อสัตว์เลี้ยงตัวเมียหน้าตาแนวน่ารัก แบ๊วๆ เห็นแล้วสบายใจ แนวน้องหมาพันธุ์ Cocker Spaniel, Beagle หรือ น้องแมวพันธุ์สวยดูสูงศักดิ์อย่าง Ragamuffin 2. MEL เมล ชื่อนี้หมายถึง "Honey" หรือน้ำผึ้ง นอกจากนี้ยังมีความหมายสื่อถึงความความรัก และความรื่นรมย์สามารถใช้เรียกแทนคนรัก ชื่อเมลสามารถตั้งได้ทั้งสัตว์เลี้ยงเพศผู้และเพศเมีย เหมาะกับน้องหมาที่ออกแนวสดใส พลังเยอะ และฉลาดอย่าง Golden Retriever และ Labrador Retriever ส่วนน้องแมว American Shorthair ก็ดูเหมาะ หรือจะเป็นชื่อของปลาทอง ตัวโปรดก็ดูเข้าท่าเพราะมีสีเหมาะอีกด้วย 3.
ชื่อทวินามจะเป็น ภาษาละติน ประกอบด้วยคำศัพท์ 2 คำ คือ สกุล (genus) และ สปีชีส์ ( species) 2. ชื่อทวินามมักจะถูกพิมพ์ด้วยตัวเอน เช่น Homo sapiens หากเป็นการเขียนด้วย ลายมือ ควร ขีดเส้นใต้ ลงไปแทน 3. คำศัพท์คำแรก (ชื่อสกุล) ต้องขึ้นต้นด้วย อักษรตัวใหญ่ เสมอ นอกจากนั้นใช้ อักษรตัวเล็ก ทั้งหมด [1] [2] เช่น Canis lupus หรือ Anthus hodgsoni แต่สำหรับสิ่งมีชีวิตที่ตั้งชื่อทวินามไว้ก่อนหน้า ศตวรรษที่ 20 และขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่อยู่แล้ว ไม่ต้องเขียนเป็นตัวเล็กอีก เช่น Carolus Linnaeus 4. ในสปีชีส์ย่อย ชื่อจะประกอบด้วยสามส่วนและสามารถเขียนได้สองแบบ โดยพืชและสัตว์จะเขียนต่างกัน [3] เช่น · เสือโคร่งเบงกอล คือ Panthera tigris tigris และ เสือโคร่งไซบีเรีย คือ Panthera tigris altaica ต้นเอลเดอร์ดำยุโรปคือ Sambucus nigra subsp. nigra และเอลเดอร์ดำอเมริกาคือ Sambucus nigra subsp. canadensis 5. ในตำราเรียน มักมีชื่อสกุลย่อ หรือชื่อสกุลเต็มของนักวิทยาศาสตร์ผู้จัดทำชื่อนั้นต่อท้าย โดยชื่อสกุลย่อใช้กับพืช ส่วนชื่อสกุลเต็มใช้กับสัตว์ ในบางกรณีถ้าชื่อสปีชีส์เคยถูกกำหนดให้ชื่อสกุลที่ต่างออกไปจากชื่อในปัจจุบัน จะคร่อมชื่อสกุลนักวิทยาศาสตร์กับปีที่จัดทำไว้ เช่น Amaranthus retroflexus L., Passer domesticus ( Linnaeus, 1758) ที่ใส่วงเล็บเพราะในอดีตชื่อหลังอยู่ในสกุล Fringilla 6.
หากใช้กับชื่อสามัญ เรามักใส่ชื่อทวินามไว้ในวงเล็บต่อท้ายชื่อสามัญ เช่น "นกกระจอกบ้าน ( Passer domesticus) กำลังมีจำนวนลดลงอย่างน่าตกใจ" 7. การเขียนชื่อทวินามเป็นครั้งแรกในรายงานหรือสิ่งพิมพ์ เราเขียนเป็นชื่อเต็มก่อน หลังจากนั้นเราสามารถย่อชื่อสกุลให้สั้นลงเป็นอักษรตัวแรกของชื่อสกุลและตามด้วยจุด เช่น Canis lupus ย่อเป็น C. lupus ด้วยเหตุที่เราสามารถย่อชื่อในลักษณะนี้ได้ ทำให้ชื่อย่อเป็นที่รู้จักและกล่าวถึงมากกว่าชื่อเต็ม เช่น T. Rex คือ Tyrannosaurus rex หรือ E. coli คือ Escherichia coli เป็นต้น 8. บางกรณี เราเขียน " sp. " ( สำหรับสัตว์) หรือ " spec. " ( สำหรับพืช) ไว้ท้ายชื่อสกุล ในกรณีที่ไม่ต้องการเจาะจงชื่อ สปีชีส์ และเขียน " spp. " ในกรณีที่ต้องการกล่าวถึงหลายสปีชีส์ ตัวอย่างเช่น " Canis sp. ", หมายถึงสปีชีส์หนึ่งในสกุล Canis 9. สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งอาจมีชื่อวิทยาศาสตร์มากกว่าหนึ่งชื่อ ให้ใช้ชื่อตั้งขึ้นก่อนเป็นชื่อหลัก ส่วนชื่ออื่นเป็นชื่อพ้อง [4] 10.
เสียงสัตว์ 30 ตัว สำหรับเด็ก ภาพจริง ชัดมาก จำง่าย | เรียนรู้ชื่อและเสียงของสัตว์ | Animal Sounds - YouTube
DELICIAE เดลิเคีย ชื่อนี้หมายถึง "Sweetheart" หรือหวานใจ ถึงแม้ว่าจะไว้เรียกคนรักเหมือนกับคำอื่นๆ แต่ว่าคำนี้จะทำให้เรารู้สึกดูฉลาดขึ้นมาทันที แถมถ้าแฟนของคุณรู้ความหมายขึ้นมาแล้วล่ะก็คงเป็นปลื้ม ชื่อนี้เหมาะที่จะตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงเพศเมียที่ออกแนวหรูหราไฮโซสักนิด อาจจะเป็นแนวนกสวยงามที่แสนรู้ เช่น นกแก้ว Sun Conure หรือ African grey 4. FIDELIS ฟิเดลิส ชื่อเท่ๆนี้มีความหมายว่า "Faithful" หรือความซื่อสัตย์ และความจริง เหมาะที่จะใช้ตั้งชื่อสัตว์เลี้ยงเพศผู้ ซึ่งถ้านำไปตั้งแล้วก็เหมือนเราส่งตัวแทนความจริงใจของเราไปคอยอยู่ดูแลคนรักอย่างไม่มีวันนอกใจ เหมาะมากที่จะนำไปตั้งชื่อน้องหมาอารักขา หรือพันธุ์ที่มาความสามารถในการเฝ้ายามอย่างเช่น German Shepherd, Doberman Pinscher และ Rottweiler 5. MEI เมย์ ชื่อสั้นๆนี้มีความหมายว่า "Mine" หรือ ของฉัน จะดีแค่ไหนหากมีใครสักคนรักเราจนอยากให้เราเป็นของๆเขาคนเดียว ชื่อนี้เอาใช้ตั้งชื่อสัตว์ได้ทั้งสองเพศและเหมาะกับสัตว์เล็กจิ้มลิ้มน่ารัก ประเภทหนู เช่นหนู แฮมสเตอร์ หรือ หนูแกสบี้ โดยเฉพาะพันธุ์ Peruvian ที่กำลังฮิตเพราะมีลักษณะขนยาวแปลกตา 6. PECTORE แพคทอเร่ มีความหมายว่า "Heart" หรือหัวใจ ทรงวงอก ถ้าคนรักขโมยหัวใจของคุณไปทั้งดวงก็เหมาะแล้วที่เราจะเรียกเขาว่า แพคทอเร่ ชื่อนี้น่าจะเหมาะกับสัตว์ที่น่าทะนุถนอมเช่น กระต่าย ซึ่งพันธุ์ที่นิยมตอนนี้เช่น Satin Angora กระต่ายขนยาวประกายแวววาวเหมือนผ้าซาติน หรือจะเป็นพันธุ์ Holland Lop กระต่ายหูตูบสุดน่ารักที่สาวๆต่างหลงรัก 7.
saura9.com, 2024