การร้องเรียนที่พบบ่อยที่สุด คือ อาการปวดแสบปวดร้อนใน กระเพาะอาหาร แผลในลำไส้เล็กส่วนต้น อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องหลังรับประทานอาหารได้ไม่กี่ชั่วโมง ความเจ็บปวดนี้มีแนวโน้มที่จะตอบสนองได้ดีกับยาหรืออาหารที่ช่วยลดกรดใน กระเพาะอาหาร แต่เนื่องจากผลกระทบของสิ่งเหล่านี้จะหมดไป ความเจ็บปวดมักจะกลับมา ดังนั้น คุณรู้สึกปวดแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้นที่ไหน? อาการที่พบบ่อยที่สุดของแผลในกระเพาะอาหารจะมีอาการปวดท้อง อาการปวดแผลในกระเพาะอาหาร: มักอยู่ตรงกลางส่วนบนของช่องท้อง เหนือสะดือ (สะดือ) และใต้กระดูกหน้าอก รู้สึก เหมือนกำลังไหม้หรือแทะและอาจทะลุไปถึงด้านหลังได้ รู้ยัง แผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้นเป็นอันตรายหรือไม่? เมื่อพบในส่วนบนของลำไส้เล็กจะเรียกว่าแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีแผลในกระเพาะอาหาร คนอื่นมีอาการเช่น อิจฉาริษยา และ ปวดท้อง แผลอาจเป็นอันตรายได้มากหากทะลุลำไส้หรือมีเลือดออกมาก (หรือที่เรียกว่าเลือดออก) ด้วยวิธีนี้ สาเหตุส่วนใหญ่ของแผลในลำไส้เล็กส่วนต้นคืออะไร? แบคทีเรีย Helicobacter pylori ( H. pylori เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของการเป็นแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น แผลในลำไส้เล็กส่วนต้นหายไปหรือไม่?
0 ที่ประเทศไทยสามารถผลิตเครื่องมือและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการผ่าตัดเองได้ ก็จะทำให้ค่ารักษายิ่งถูกลงตามลำดับ สำหรับการผ่าตัดแผลเล็กนั้น ทำเพื่อให้คนไข้หายขาดจากโรคและมีการฟื้นฟูหลังผ่าตัดที่เร็วขึ้น แต่สุดท้ายแล้วก่อนที่ตัวมะเร็งจะลุกลามไปที่อื่น การป้องกันคือสิ่งที่ดีที่สุด ดังนั้นควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เพราะมะเร็งลำไส้มักพบในผู้สูงอายุ นำไปสู่การป้องกันการลุกลามที่อาจควบคุมได้โดยไม่ต้องผ่าตัด ข้อมูลจาก ผศ. นพ. ไชยรัตน์ ทรัพย์สมุทรชัย สาขาวิชาศัลยศาสตร์มะเร็งวิทยา ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
มี ปัจจัยเร่งการทำลายเยื่อบุผิวกระเพาะอาหาร เช่น ติดเชื้อแบคทีเรีย H. pylori ใช้ยาแอสไพริน และ NSAIDs ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณสูง มีภาวะที่ทำให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดไฮโดรคลอริก (HCL) น้ำย่อยเพปซิน (pepsin) หรือสารอนุมูลอิสระมากเกินไป 2.
ไพโลไร นอกจากวิธีส่องกล้องแล้วก็ยังมีวิธีการเจาะเลือดตรวจหาภูมิต้านทานต่อเชื้อ วิธีการตรวจลมหายใจ ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นการตรวจเพื่อวินิจฉัยการติดเชื้่อ เอช. ไพโลไร ที่ดีที่สุด แต่ราคาค่อนข้างแพง ♦ การรักษาเพื่อกำจัดเชื้อ ในปัจจุบันแนวทางการรักษาทั่วไป แนะนำให้ตรวจหาเชื้อ เอช. ไพโลไร ในผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหารทุกราย และให้การรักษาเพื่อการกำจัดเชื้อเอช. ไพโลไร ด้วยเสมอ ถ้าพบว่ามีการติดเชื้อร่วมด้วย ไม่ว่าจะเพิ่งเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็กส่วนต้นเป็นครั้งแรก หรือเคยเป็นๆ หายๆ การรักษาที่นิยมใช้กันมากและมีประสิทธิภาพสูง ประกอบด้วยการใช้ยาลดการหลั่งกรด 1 ชนิดร่วมกับยาปฏิชีวนะอีก 2 ชนิด เป็นระยะเวลา 1-2 สัปดาห์ พบว่าได้ผลการกำจัดเชื้อมากกว่า 90% ข้อบ่งชี้ว่ากำจัดเชื้อได้ คือ การตรวจไม่พบเชื้่อ เอช.
เว็บไซต์ (หาหมอ) ใช้คุกกี้ (Cookie) เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณและนำเสนอเนื้อหาแบบเฉพาะบุคคล หากคุณใช้งานเว็บไซต์ของเราต่อจากนี้ไป โดยไม่ปฏิเสธ เราถือว่าคุณยินยอมให้มีการใช้งานคุกกี้ คุณสามารถเรียนรู้เรื่องคุกกี้และการคุ้มครองข้อมูลส่วนตัวได้ที่ นโยบายคุกกี้ (Cookie Policy) และ นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
โรคกระเพาะอาหารที่เรียกกันแพร่หลายจนติดปากนั้น ทางการแพทย์จะหมายถึง โรคแผลเปปติค (Peptic ulcer) ซึ่งจะเกิดเป็นแผลบริเวณกระเพาะอาหารโดยตรง หรือเกิดเป็นแผลที่บริเวณลำไส้เล็กส่วนต้น ซึ่งอยู่ติดกับกระเพาะอาหาร 80% ของผู้ป่วยส่วนใหญ่จะประสบปัญหาการเป็นๆ หายๆ คือหลังจากการรักษาแผลให้หายแล้วก็มักจะกลับมาเป็นแผลอีกเรื่อยๆ ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ในอดีตมีความเชื่อว่า โรคกระเพาะเป็นผลมาจากการที่กระเพาะอาหารมีกรดมาก หรือเยื่อบุกระเพาะอาหารไม่แข็งแรงแต่เพียงอย่างเดียว ปัจจุบันเราพบว่าโรคกระเพาะอาหารมีสาเหตุสำคัญอันดับหนึ่งมาจาการติดเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร หรือ เอช. ไพโลไร (Helicobacter Pylori or H. Pylori) แบคทีเรียร้ายในกระเพาะอาหาร เป็นเวลากว่า 100 ปีแล้ว ที่มีการค้นพบเชื้อแบคทีเรียที่กระเพาะอาหาร แต่ไม่ทราบถึงความสำคัญจนกระทั่งปี พ. ศ. 2526 แพทย์ชาวออสเตรเลีย 2 ท่านคือ Barry Marchall และ Robin Warren สามารถเพาะเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวได้ และค้นพบว่าเชื้อนี้มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคกระเพาะอาหาร และได้ตั้งชื่อแบคทีเรียตัวนี้ว่า เ ฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter Pylori) โดยปกติแล้วกระเพาะอาหารจะมีสภาพที่เป็นกรดอย่างแรง ซึ่งจะทำหน้าที่ทำลายแบคทีเรีย ทำให้แบคทีเรีย ส่วนใหญ่ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ แต่เนื่องจากเชื้อ เอช.
saura9.com, 2024